พื้นที่ชีวิต - วิจัยชีวิต 1
เนื่องจาก Blogger ของผมเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการค้นหาความหมายของชีวิต ซึ่งรายการนี้ให้สาระ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ผมสนใจ
"สิบปีในสวนโมกข์" บทความที่เล่าเรื่องราวการฝึกฝนปฏิบัติธรรม
ของท่านอาจารย์พุทธทาสในช่วงสิบปีแรกที่เริ่มตั้งสวนโมกข์
เป็นตัวอย่างแห่งความมานะพากเพียร เพื่อไปสู่จุดสูงสุดแห่งชีวิต"อนัตตา มีแต่ในพุทธศาสนาเท่านั้น หามีในศาสนาอื่นๆ ไม่
แต่ทำไมเราจึงไม่เอาธรรมะข้อนี้มาเป็นหลักสั่งสอนประชาชนโดยตรง.."
บางตอนจาก "หลักอนัตตา กับการอบรมประชาชน""...พุทธศาสนาคือศาสนาแห่งการบังคับตัวเอง
มิใช่ศาสนาแห่งการอ้อนวอนพระเป็นเจ้าผู้มีอำนาจ
หรือ เป็นศาสนาแห่งการแลกเปลี่ยนทำนองการค้าขาย-ทำบุญ ทำทาน
แลกนางฟ้าในสวรรค์ หรือ อะไรทำนองนี้ แต่ประการใดเลย
และเพราะความที่พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งการบังคับตัวเอง
โดยมีเหตุผลเพียงพอแก่ตนเอง จึงได้ชื่อว่าเป็น ศาสนาแห่งเหตุผลด้วย..."
บางตอนจาก "พุทธศาสนา ศาสนาแห่งการบังคับตน""ความสำราญทางกายหรือฝ่ายโลกนั้นต้องดื่มหรือต้องกินอยู่เสมอ จึงจะสำราญ
แต่ที่แท้มันเป็นเพียงการระงับหรือกลบเกลื่อนความหิวไว้ทุกชั่วคราวที่หิวเท่านั้น
ส่วนความสำราญทางฝ่ายใจหรือฝ่ายธรรมนั้น ไม่ต้องดื่มไม่ต้องกินก็สำราญอยู่เอง
เพราะมันไม่มีความหิว ไม่ต้องดื่มกิน เพื่อแก้หิว ที่กล่าวนี้..."
บางตอนจาก "อาหารของดวงใจ"คุณค่าของปริยัติ
"บทความชิ้นนี้ ทำให้ท่านอาจารย์พุทธทาส ได้รับบัตรสนเท่ห์
ด่าว่าอย่างหาชิ้นดีมิได้ จาก บุคคลบางคน แม้ที่เป็นบรรพชิต
และขอร้องให้คณะธรรมทานลงมติขับท่านออกจากกลุ่มชาวคณะธรรมทานให้ได้."อ่าน บทความ เรื่อง "ความกลัว" แล้วคุณจะชนะความกลัว!"ท่านผู้ที่แสดงฤทธิ์ได้ ไม่เคยปรากฏว่าได้รับผลอันเด็ดขาดแท้จริงอย่างไร
จากฤทธิ์นั้นทั้งทางวัตถุ และความสุขในส่วนใจ.." บางตอนจาก "ฤทธิ์-ปาฎิหาริย์""บุญเป็นการทำให้โป่ง กุศลเป็นการถากถางให้เตียน
การให้ทานที่เห็นเหมือนๆกัน แต่เป็นบุญก็ได้ เป็นกุศลก็ได้.."
อยากรู้ว่าทำไม อ่าน "บุญ-กุศล"
นับจากวันวิสาขบูชา ๒๔๗๕ ซึ่งพระมหาหนุ่มนาม "เงื่อม"
สวนโมกขพลาราม คือมรดกสำคัญที่ท่าน
สำหรับท่านอาจารย์พุทธทาส ผู้จุดดวง
ท่านอาจารย์พุทธทาส อาพาธหนักครั้งแรก
และนี่คือสิ่งที่ "พุทธทาสภิกขุ" ได้ปฏิบัติมาตลอดชีวิต
ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะศึกษาปฏิบัติธรรม
ชีวิตอันอยู่กับการเผยแผ่ธรรมะทุกลมหายใจเช่นนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ท่าน
และด้วยความเห็นที่ว่า
ในขณะเดียวกัน กิจกรรมอื่นๆ ที่เคยดำเนินมา ก็ยังคงดำเนินอยู่
ท่านอาจารย์พุทธทาสกลับมองตรงกันข้ามว่า
โดยท่านมองว่า การเผยแผ่ธรรมดังกล่าวนี้ จะต้อง
จึงเกิดการ
แล้วในเวลาเพียงทศวรรษเศษๆ
ตลอด ๒ ทศวรรษ ที่สังคม
ไม่นานนัก การประกาศธรรม ก็
ความสามารถดังกล่าวนี้ ทำให้นาม "พุทธทาสภิกขุ"
แล้วในวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๗๕

เด็กชายเงื่อม มีน้องอีก ๒ คน คนรองเป็นชาย
ความเป็นผู้ใฝ่การเรียนรู้ ก็ทำให้นายเงื่อมยัง๑. หมวด"จากพระโอษฐ์" เป็นเรื่องที่ท่านค้นคว้าจากพระไตรปิฎก
ฉบับ ภาษา บาลี โดยตรง
๒. หมวด"ปกรณ์พิเศษ" เป็นคำอธิบายข้อธรรมะ ที่เป็นหลักวิชา
และหลักปฏิบัติ
๓. หมวด"ธรรมเทศนา"เป็นคำบรรยายแบบเทศนาในเทศกาลต่างๆ
๔. หมวด"ชุมนุมธรรมบรรยาย" เป็นคำขยายความ ข้อธรรมะ เพื่อ
ให้เข้าใจได้อย่างถูกต้อง
๕. หมวด"ปกิณกะ" เป็นการอธิบายข้อธรรมะ เบ็ดเตล็ด ต่างๆ
ประกอบ ความเข้าใจ
| พุทธทาส จักอยู่ไป ไม่มีตาย | แม้ร่างกายจะดับไปไม่ฟังเสียง |
| ร่างกายเป็น ร่างกายไป ไม่ลำเอียง | นั่นเป็นเพียงสิ่งเปลี่ยนไปในเวลา |
| พุทธทาส คงอยู่ไป ไม่มีตาย | ถึงดีร้ายก็จะอยู่คู่ศาสนา |
| สมกับมอบ กายใจ รับใช้มา | ตามบัญชาองค์พระพุทธไม่หยุดเลย |
| พุทธทาส ยังอยู่ไป ไม่มีตาย | อยู่รับใช้ เพื่อนมนุษย์ไม่หยุดเฉย |
| ด้วยธรรมโฆษณ์ตามที่วางไว้อย่างเคย | โอ้เพื่อนเอ๋ยมองเห็นไหมอะไรตายฯ |
| แม้ฉันตาย กายลับ ไปหมดแล้ว | แต่เสียงสั่ง ยังแจ้ว แว่วหูสหาย |
| ว่าเคยพลอดกันอย่างไรไม่เสื่อมคลาย | ก็เหมือนฉันไม่ตาย กายธรรมยัง |
| ทำกับฉัน อย่างกะฉัน นั้นไม่ตาย | ยังอยู่กับ ท่านทั้งหลายอย่างหนหลัง |
| มีอะไรมาเขี่ยไค้ ให้กันฟัง | เหมือนฉันนั่ง ร่วมด้วย ช่วยชี้แจง |
| ทำกับฉัน อย่างกะฉัน ไม่ตายเถิด | ย่อมจะเกิด ผลสนอง หลายแขนง |
| ทุกวันนัด สนทนา อย่าเลิกแล้ง | ทำให้แจ้ง ที่สุดได้ เลิกตายกันฯ |
แม้ในความพยายามที่จะทำตามปณิธานนี้ จะทำให้